ที่เด็ดๆในเมืองงง
พิษณุโลก เที่ยวไหนดี 10 ที่นี้ คือคำตอบ!
ปลายฝนต้นหนาวที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวจังหวัด พิษณุโลก เดินทางในช่วงปลายเดือนกันยายน แม้จะมีฝนตกบ้าง แต่การเดินทางก็ราบรื่นดี เราโชคดีตรงที่ มีเพื่อนเป็นคนพื้นที่ เพื่อนแพลนที่เที่ยวไว้ให้แล้ว พอลงเครื่องที่สนามบิน พิษณุโลก ก็พร้อมเที่ยวทันที
ทริปนี้เราจะไปกันที่ ร้านอาหาร กนกภัณฑ์ - วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร - ศาลสมเด็จพระนเรศวร - พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จ่าทวี - ร้าน Healthy Delight - ศิลป์สองแคว ๙ ตามพ่อ - เนินมะปราง - ล่องแก่งลำน้ำเข็ก - วัดเจดีย์ยอดด้วนปิดท้ายด้วยการนวดผ่อนคลาย ที่หัตถาแลนด์
เรานั่งเครื่องบินจาก กรุงเทพฯ เดินทางมาถึงพิษณุโลกตอนสายๆ เพื่อนกลัวจะหิว ก็เลยพามาหาอะไรอร่อยๆ รองท้องกันก่อน
นี่เลย! ร้าน กนกภัณฑ์ ร้านเก่าแก่ที่คนพื้นที่และนักท่องเที่ยวรู้จักกันดี เมนูเด่นก็คือ ขนมจีบ ซาลาเปา ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ และก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ฮอตขนาดไหนสังเกตได้จากลูกค้าที่แน่นร้านในช่วงสายๆ แบบนี้
ทานมื้อเช้าเสร็จก็ออกเดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัด ซึ่งก็คือ พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เรามาที่นี่เป็นครั้งแรก ได้เห็นความเลื่อมใสศรัทธาจากประชาชนที่หลั่งไหลกันมาจากทั่วสารทิศ ก็รู้สึกตื้นตันใจ
จากนั้นแวะไปไหว้ ศาลสมเด็จพระนเรศวร ณ พระราชวังจันทร์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน
หลังจากไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดแล้วก็แวะเที่ยว พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จ่าทวี ที่นี่เป็นสถานที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณ ที่จ่าสิบเอก ทวี บูรณเขตต์ เก็บสะสมจากน้ำพักน้ำแรง จนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา
ที่นี่เค้าแบ่งโซนออกเป็นหมวดหมู่ ส่วนใหญ่จะเป็นของโบราณที่หาชมยาก
ห้องนี้คือ ห้องเทิดพระเกียรติ ที่จัดแสดงภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระบรมวงศานุวงศ์
โซนด้านบน จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ มีการจำลองเป็นบ้านไม้สมัยโบราณ ที่มีเตารูปแบบต่างๆ
ปัจจุบัน จ่าทวี อายุกว่า 80 ปี แต่ยังคงแข็งแรง และรอต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความเป็นมิตร
ราคาเข้าชมเป็นหมู่คณะ เด็กอนุบาล-ประถมศึกษา คนละ 15 บาท, มัธยมศึกษา คนละ 20 บาท, นักศึกษา 25 บาท, นักท่องเที่ยวทั่วไป เด็ก 25 บาท ผู้ใหญ่ 50 บาท
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จ่าทวี
ที่อยู่ : 26/138 ถ.วิสุทธิ์กษัตริย์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก
เปิดทุกวัน 08.30-16.30 น.
โทร. 0 5521 2749
Facebook : พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จ่าทวี พิษณุโลก
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า พิษณุโลกก็มีบรรยากาศแบบนี้เหมือนกัน กับสวนบัววิกตอเรีย หรือ บัวกระด้งที่ชาวบ้านมักเรียกกัน สวนบัวแห่งนี้ เหมาะกับการเที่ยวช่วงเดือนธันวาคม เพราะบัวจะโตเต็มที่ แต่ไหนๆ ก็ผ่านมาแล้วก็เลยขอแวะมาชมสักนิดนึง
กิจกรรมของสวนบัวอมรรัตน์คือ การลงไปนั่งหรือยืนบนใบบัว คิดค่าบริการครั้งละ 100 บาทต่อคน แต่ถ้าแวะมาเยี่ยมชมปกติ คิดค่าเข้าชมปกติ ราคา 10 บาทเท่านั้น
ถ้าสนใจ แนะนำให้โทร.ไปสอบถามรายละเอียด ได้ที่ สวนบัวอมรรัตน์
ที่อยู่ 5/1 หมู่10 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก
โทร. 08 3162 0988
แวะเที่ยวกันมาหลายที่ ได้เวลาอาหารกลางวัน แวะฝากท้องกันที่ร้าน Healthy Delight ร้านน่านั่งใจกลางเมือง กับเมนูอาหารคลีนที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา รสชาติก็ดีด้วย เมนูแนะนำของร้านมีทั้ง แกงเลียงกุ้งสด, ไข่ยัดไส้, ชุดน้ำพริกปลาทูย่าง ผักต้ม, ลาบอกไก่, อกไก่จิ้มแจ่ว และที่พลาดไม่ได้ ก็คือ น้ำผลไม้สกัดเย็น ชื่นใจจัง!
Healthy Delight
ที่อยู่ : 26/160-161 ถ.วิสุทธิ์กษัตริย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก
เปิดเวลา 10.00-21.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
โทร. 095 630 8696
Facebook : Healthydelight Phitsanulok
เรายังคงเที่ยวกันอยู่ตัวเมืองในเมืองพิษณุโลก ตอนที่ขับรถผ่านสังเกตเห็นว่ามีนิทรรศการภาพวาดในหลวง เป็นแนวยาว อยู่ที่ลานสวนกลางเมือง งานนี้มีชื่อว่า ศิลป์สองแคว ๙ ตามพ่อ
เพราะความพร้อมใจของศิลปินแขนงต่างๆ ที่มารวมตัวกันวาดภาพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเป็นการถวายอาลัยแด่พระองค์ท่าน ซึ่งภาพวาดเหล่านี้ มีความยาวประมาณ 200 เมตร นอกจากจะแวะมาชื่นชมผลงานด้านศิลปะที่ชวนให้น้อมรำลึกถึงพ่อหลวงแล้ว ช่วงเย็นๆ ไปถึงค่ำ จะมีการแสดงบนเวที ร้านอาหารต่างๆ ภายในจังหวัดก็พร้อมใจกันนำอาหารมาแจกให้ผู้ร่วมชมงาน งานนี้คาดว่าจะเที่ยวได้ถึงสิ้นปี 2560
เดินเล่นถ่ายภาพพอหอมปากหอมคอ จากนั้นก็ออกเดินทางกันต่อไปที่เนินมะปราง สถานที่ๆ เราอยากไปมากๆ ระหว่างที่เดินทาง ฝนก็ตั้งเค้ามาตั้งแต่ไกล (เราก็ลุ้นกันตลอดการเดินทาง) ปกตินักท่องเที่ยวจะขับรถเที่ยวในหมู่บ้านลัดเลาะไปตามถนนสายหลักของหมู่บ้าน แต่ถ้าจะให้ได้บรรยากาศก็ต้องนั่งรถอีแต๊กเข้าไป เสียงรถก็จะแต๊กๆๆๆ สมชื่อเค้าละ ข้อดีของการนั่งรถอีแต๊กชมทุ่งก็ดีตรงที่ได้นั่งรับลมจากธรรมชาติ แต่ถ้าฝนก็ต้องรีบกลับเพราะรถไม่มีหลังคา ถ้ามาหน้าหนาว คงชิลล์น่าดูแต่การมาช่วงเดือนกันยายนแบบนี้ จะดีตรงที่ได้เห็นทุ่งนาสีเขียวๆ ที่ปลูกอยู่สองข้างทาง จะว่าไป ทุ่งนาของที่นี่ก็สวยไม่แพ้ที่อื่น เพราะมีวิวของภูเขาเป็นแบ็คกราวด์
เสน่ห์ของที่นี่คือ ภูเขาหินปูน ที่เรียงราย เหมือนเป็นของขวัญจากธรรมชาติที่เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวหาโอกาสแวะมาเยือน และยังมีหมอกยามเช้าและวิวสวยๆ สองข้างทางให้เราได้เก็บภาพประทับใจ
นอกจากจะแวะมาชื่นชมธรรมชาติของเนินมะปรางแล้ว ยังสามารถรอชมค้างคาวนับล้านตัวที่ออกจากถ้ำไปหากินในช่วงพลบค่ำ บริเวณชุมชนบ้านมุง แอบเสียดายเหมือนกันที่ไม่มีโอกาสได้พักโฮมสเตย์ของที่นี่สักคืน ครั้งนี้ต้องยอมตัดใจ เพราะเสียงส่วนใหญ่ เพื่อนๆ อยากไปล่องแก่งในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น
เราเดินทางกลับไปพักกันที่ มาเดอ-เออ ภูธารา รีสอร์ทริมน้ำในพื้นที่ของ ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อจะได้ไปล่องแก่งตอนเช้าได้อย่างสะดวก ตื่นปุ๊บ กินข้าวเช้าแล้วก็ตรงไปที่จุดล่องแก่งลำน้ำเข็ก กันเลย
คนว่ายน้ำไม่เป็นอย่างเราก็ทำหน้าที่เก็บภาพอยู่บนฝั่ง เพื่อนๆ บอกว่า การล่องแก่งครั้งนี้สนุกมาก แดดไม่ร้อน แม้น้ำจะแรงแต่ก็ไม่น่ากลัว เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
เพราะเพื่อนๆ ออกแรงกับการล่องแก่งมาเยอะ มื้อกลางวัน อาหารก็เลยจัดเต็มอย่างที่เห็น ทั้ง ยำรวมมิตรทะเล, ทอดมันกุ้ง, ต้มโคล้งปลาย่าง, ปลากะพงทอดน้ำปลา, เมี่ยงปลาช่อน, ลาบปลาแซลมอนทอดกรอบ สั่งกันมาเต็มโต๊ะทานข้าวเสร็จก็มุ่งหน้าไปเที่ยวเขาค้อกันต่อเลย
มาเดอ-เออ ภูธารา รีสอร์ท
ที่อยู่ : 40/5 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
โทร. 09 3056 1233
Facebook : มาเดอ-เออ ภูธารา
ก่อนกลับกรุงเทพฯ พอมีเวลาก็เลยแวะไหว้พระที่ วัดเจดีย์ยอดด้วน วัดบนเขาสมอแครง ที่มีประวัติยาวนานและวิวทิวทัศน์สวยงาม ตั้งอยู่ภายใน ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
ทริปนี้แม้จะเหนื่อยกับอากาศช่วงกลางวันที่ร้อน และฝนที่ตกบางช่วงเวลา แต่ก็นับว่าได้ไปในที่ๆ ไม่เคยไป ก่อนกลับเจ้าถิ่นเลยแนะนำให้แวะนวดผ่อนคลายที่หัตถาแลนด์เป็นการปิดท้าย เพราะอยู่ห่างจากสนามบินแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้น คนทำงานออฟฟิศอย่างเรา ก็เลยเลือกการนวดสปอร์ต (ไฮไลท์ของที่นี่) เพราะเป็นการนวดผ่อนคลายที่ช่วยลดอาการออฟฟิศซินโดรมได้เป็นอย่างดี
ได้เที่ยว ได้ชิลล์ ได้เจอเพื่อนสมใจแล้ว ก็ได้เวลากลับไปสู่โหมดของการทำงานแล้วล่ะ เพื่อนๆ คนไหน ยังไม่เคยไปพิษณุโลก ก็ลองแวะไปกันได้นะคะ พิษณุโลก ไม่ได้มีแค่เนินมะปราง และการล่องแก่งเท่านั้น ยังมีที่เที่ยวสวยๆ อีกเยอะ และสามารถเที่ยวต่อเนื่อง พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ ได้สบายๆ
ผู้ที่สนใจข้อมูลการท่องเที่ยว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก
โทร. 055 252 742 - 3
ทุกวัน เวลา 08.30 - 16.30 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น